เลี้ยงไก่บ้าน ตอนที่ 1 เลี้ยงไก่บ้านเป็นอาชีพเสริมก็ได้ เป็นอาชีพหลักก็ดี จากมุมมองและประสบการณ์ตรงของ ครูอ๊อด รฐศาสตร์
ก่อนอื่นก็ขอสวัสดีเพื่อนๆชาวเกษตรทุกๆท่านนะครับ วันนี้แอดมินเองก็จะมาเล่าประสบการณ์ในการเลี้ยงไก่บ้าน เลี้ยงแบบบ้านๆ ตามที่ได้สัมผัสประสบการณ์นี้มาสักระยะแล้ว มีทั้งเจ็บปวดรวดร้าว มีทั้งปลื้มปิติยินดีดีใจ โหมดอารมณ์ขึ้นอยู่กับตลาด ซึ่งตลาดที่นิยมไก่บ้านนั้น ก็คือประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆเรานี่เอง "กัมพูชา" หรือเขมร นี่แหละ ผมอาจโชคดีที่อยู่ในเขตอีสานใต้ เพราะอยู่ใกล้แหล่งรับซื้อไก่บ้าน ตลาดที่ว่านั้นก็คือ ตลาดช่องจอม จ.สุรินทร์ ครับ แต่หากใครที่เลี้ยงมาก่อนหน้านี้ ก็จะรู้ว่าช่วงปีที่ผ่านๆมา ช่วง "โควิด 19" ระบาดหนัก เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่บ้านก็จะประสบชะตากรรม ถูกลอยแพล่องไปตามกระแสน้ำ โดยหวาดหวั่นตลอดเวลาว่าจะตกน้ำตอนไหน เนื่องจากเลี้ยงแต่ขายไม่ได้ ไม่มีใครรับซื้อ เพราะช่วงโควิด19 ระบาดหนัก ประเทศเพื่อนบ้านเขาไม่กินไก่ เขาไม่นำเข้าไก่บ้านเลย พ่อค้าชาวไทยเราเลยได้แต่นิ่งไม่กล้าซื้อ แต่ผู้ที่ได้รับชะตากรรมอย่างแสนสาหัสคือเกษตรกรผู้เลี้ยงนั่นเอง ด้วยภาระก้อนโตที่แบกรับไว้ ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหารค่าเลี้ยงดูแลต่างๆ เป็นต้น
สิ่งสำคัฐที่สุดในการเลี้ยงสัตว์ไม่าว่าจะเป็นสัตว์ประเภทใดก็ตาม ใจเราต้องมาก่อน ใจต้องรักในสิ่งที่ทำด้วยถึงจะมีความสุขในการเลี้ยง หากเลี้ยงเพื่อคาดหวังแต่เงินก้อนโต ทุกวินาทีคิดถึงแต่ตัวเงิน ผมไม่แนะนำให้เลี้ยง เพราะการเลี้ยงไก่บ้านถือว่าใช้ระยะเวลานานหลายเดือนถึงจะนำออกขายได้ หากอยากมีรายได้ตลอดปีมันก็มีวิธีหารายได้จากไก่ได้เช่นกัน อาทิ ขายไข่เชื้อ ขายลูกเจี๊ยบ ขายพ่อและแม่พันธุ์ เป็นต้น
อันดับแรกก่อนที่จะเลี้ยงไก่บ้าน เราต้องมี "เล้าไก่" ทำแบบเรียบๆง่ายๆตามวัสดุอุปกรณ์ที่มีก็ได้ จะได้ไม่เปลืองงบประมาณไปเปล่าๆ
สำหรับผม มีคอกหมูที่ทิ้งรกร้างมานานหลายปี เลยโชคดีที่ไม่ต้องทำโครงสร้างใหม่ แค่ต่อเติมนิดๆหน่อยๆ โดยใช้สันไทย หรือ "สรรไท" แล้วแต่ใครจะเขียนหรือเรียกว่าแบบไหน ท้ายที่สุดความหมายก็อันเดียวกัน ผมใช้ล้อมรอบโรงเรือนโดยตัดแนวตั้งสูง โดยประมาณ 120 cm. ส่วนด้านบนใช้ตาขายเหล็ก ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ม้วนละ 280 บาท กว่าง 1เมตร ยาว 30 เมตร โดยประมาณ
เมื่อเราทำเล้าไก่ "คอกไว้ขังไก่" เสร็จแล้ว เมื่อเห็นว่าสภาพแวดล้อมภายในโรงเรือนพร้อมแล้ว ลำดับต่อไปก็ หาไก่มาเลี้ยง ซึ่งแล้วแต่ความต้องการของแต่ละคน อาทิ
1. ลูกเจี๊ยบ ราคาตัวละ 25-45 บาท แล้วแต่ขนาดและอายุของลูกไก่ ราคาอยู่ที่พ่อค้าตั้งราคาไว้ ลูกเจี๊ยบนี้จะหาง่ายหน่อย แต่ข้อเสียคือ ต้นทุนสูง หากเราเลี้ยงหลายร้อยตัวก็จะใช้งบประมาณเยอะหน่อย สำหรับผมช่วงแรกๆ ผมเลือกวิธีการนี้ คือ หาลูกเจี๊ยบมาเลี้ยง
2. พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ไก่บ้าน ส่วนวิธีการนี้ผมก็ใช้เช่นกัน หลังจากที่เลี้ยงมาหลายเดือน เลยคิดวิธีอยากประหยัดต้นทุนไก่และเลี่ยงโรคจากที่อื่นๆ
3. ไข่เชื้อ "ไข่ไก่" หากเลือกข้อนี้ คุณต้องมีตู้ฟักก่อน ซึ่งตู้ฟักปัจจุบันนี้มีขายอยู่ทั่วๆไป ตามเฟสและเพจก็มีคนขายเยอะแยะไปหมด หรือหากใครไม่มีตู้ฟักก็สามารถทำใช้เองก็ได้
ผมทำตู้ฟักจากตู้เย็น 3 ตู้ เนื่องจากทำเสร็จพอใช้งานได้จริง ชาวบ้านเห็นก็มาขอซื้อ เมื่อซื้อผมก็ขายแล้วก็ทำอีก เลยต้องซื้อตู้ฟักตัวที่จะใช้เองประจำจะได้ไม่ขาดตอน เวลามีคนมาขอซื้อตู้ฟักจากตู้เย็น
ก่อนอื่นก็ขอสวัสดีเพื่อนๆชาวเกษตรทุกๆท่านนะครับ วันนี้แอดมินเองก็จะมาเล่าประสบการณ์ในการเลี้ยงไก่บ้าน เลี้ยงแบบบ้านๆ ตามที่ได้สัมผัสประสบการณ์นี้มาสักระยะแล้ว มีทั้งเจ็บปวดรวดร้าว มีทั้งปลื้มปิติยินดีดีใจ โหมดอารมณ์ขึ้นอยู่กับตลาด ซึ่งตลาดที่นิยมไก่บ้านนั้น ก็คือประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆเรานี่เอง "กัมพูชา" หรือเขมร นี่แหละ ผมอาจโชคดีที่อยู่ในเขตอีสานใต้ เพราะอยู่ใกล้แหล่งรับซื้อไก่บ้าน ตลาดที่ว่านั้นก็คือ ตลาดช่องจอม จ.สุรินทร์ ครับ แต่หากใครที่เลี้ยงมาก่อนหน้านี้ ก็จะรู้ว่าช่วงปีที่ผ่านๆมา ช่วง "โควิด 19" ระบาดหนัก เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่บ้านก็จะประสบชะตากรรม ถูกลอยแพล่องไปตามกระแสน้ำ โดยหวาดหวั่นตลอดเวลาว่าจะตกน้ำตอนไหน เนื่องจากเลี้ยงแต่ขายไม่ได้ ไม่มีใครรับซื้อ เพราะช่วงโควิด19 ระบาดหนัก ประเทศเพื่อนบ้านเขาไม่กินไก่ เขาไม่นำเข้าไก่บ้านเลย พ่อค้าชาวไทยเราเลยได้แต่นิ่งไม่กล้าซื้อ แต่ผู้ที่ได้รับชะตากรรมอย่างแสนสาหัสคือเกษตรกรผู้เลี้ยงนั่นเอง ด้วยภาระก้อนโตที่แบกรับไว้ ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหารค่าเลี้ยงดูแลต่างๆ เป็นต้น
ลูกเจี๊ยบ (ลูกไก่) อยู่ระหว่างอนุบาลครูอ๊อดใช้ท่อซีเมนต์เป็นห้องอนุบาลลูกไก่
สิ่งสำคัฐที่สุดในการเลี้ยงสัตว์ไม่าว่าจะเป็นสัตว์ประเภทใดก็ตาม ใจเราต้องมาก่อน ใจต้องรักในสิ่งที่ทำด้วยถึงจะมีความสุขในการเลี้ยง หากเลี้ยงเพื่อคาดหวังแต่เงินก้อนโต ทุกวินาทีคิดถึงแต่ตัวเงิน ผมไม่แนะนำให้เลี้ยง เพราะการเลี้ยงไก่บ้านถือว่าใช้ระยะเวลานานหลายเดือนถึงจะนำออกขายได้ หากอยากมีรายได้ตลอดปีมันก็มีวิธีหารายได้จากไก่ได้เช่นกัน อาทิ ขายไข่เชื้อ ขายลูกเจี๊ยบ ขายพ่อและแม่พันธุ์ เป็นต้น
อันดับแรกก่อนที่จะเลี้ยงไก่บ้าน เราต้องมี "เล้าไก่" ทำแบบเรียบๆง่ายๆตามวัสดุอุปกรณ์ที่มีก็ได้ จะได้ไม่เปลืองงบประมาณไปเปล่าๆ
โรงเรือน (เล้าไก่) ของครูอ๊อด รฐศาสตร์ ลงมือทำเองทุกขั้นตอน
สำหรับผม มีคอกหมูที่ทิ้งรกร้างมานานหลายปี เลยโชคดีที่ไม่ต้องทำโครงสร้างใหม่ แค่ต่อเติมนิดๆหน่อยๆ โดยใช้สันไทย หรือ "สรรไท" แล้วแต่ใครจะเขียนหรือเรียกว่าแบบไหน ท้ายที่สุดความหมายก็อันเดียวกัน ผมใช้ล้อมรอบโรงเรือนโดยตัดแนวตั้งสูง โดยประมาณ 120 cm. ส่วนด้านบนใช้ตาขายเหล็ก ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ม้วนละ 280 บาท กว่าง 1เมตร ยาว 30 เมตร โดยประมาณ
เมื่อเราทำเล้าไก่ "คอกไว้ขังไก่" เสร็จแล้ว เมื่อเห็นว่าสภาพแวดล้อมภายในโรงเรือนพร้อมแล้ว ลำดับต่อไปก็ หาไก่มาเลี้ยง ซึ่งแล้วแต่ความต้องการของแต่ละคน อาทิ
1. ลูกเจี๊ยบ ราคาตัวละ 25-45 บาท แล้วแต่ขนาดและอายุของลูกไก่ ราคาอยู่ที่พ่อค้าตั้งราคาไว้ ลูกเจี๊ยบนี้จะหาง่ายหน่อย แต่ข้อเสียคือ ต้นทุนสูง หากเราเลี้ยงหลายร้อยตัวก็จะใช้งบประมาณเยอะหน่อย สำหรับผมช่วงแรกๆ ผมเลือกวิธีการนี้ คือ หาลูกเจี๊ยบมาเลี้ยง
2. พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ไก่บ้าน ส่วนวิธีการนี้ผมก็ใช้เช่นกัน หลังจากที่เลี้ยงมาหลายเดือน เลยคิดวิธีอยากประหยัดต้นทุนไก่และเลี่ยงโรคจากที่อื่นๆ
3. ไข่เชื้อ "ไข่ไก่" หากเลือกข้อนี้ คุณต้องมีตู้ฟักก่อน ซึ่งตู้ฟักปัจจุบันนี้มีขายอยู่ทั่วๆไป ตามเฟสและเพจก็มีคนขายเยอะแยะไปหมด หรือหากใครไม่มีตู้ฟักก็สามารถทำใช้เองก็ได้
ตู้ฟักไข่ ครูอ๊อด รฐศาสตร์ ทำจากตู้เย็นเก่า
ผมทำตู้ฟักจากตู้เย็น 3 ตู้ เนื่องจากทำเสร็จพอใช้งานได้จริง ชาวบ้านเห็นก็มาขอซื้อ เมื่อซื้อผมก็ขายแล้วก็ทำอีก เลยต้องซื้อตู้ฟักตัวที่จะใช้เองประจำจะได้ไม่ขาดตอน เวลามีคนมาขอซื้อตู้ฟักจากตู้เย็น
บันทึกการเข้า
