เทคนิคและวิธีการเลี้้ยง "หมูป่า" จากประสบการณ์ตรงและมุมมองของแอดมิน - ห้องสนทนาเกี่ยวกับเกษตร - โครงการ อาชีวะสร้างช่างฝีมือ ตามแนวทางโรงเรียนพระดาบส วิทยาลัยการอาชีพโนนดินแดง จ.บุรีรัมย์


เทคนิคและวิธีการเลี้้ยง "หมูป่า" จากประสบการณ์ตรงและมุมมองของแอดมิน
  ครูอ๊อด รฐศาสตร์
  รายละเอียด   ส่งข้อความ โพสต์เมื่อ : 11 กุมภาพันธ์, 2568, 20:34:38 PM 70 0


ก่อนอื่นก็ขอสวัสดีเพื่อนๆ ชาวเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูป่า และทุกท่านที่สนใจที่จะเลี้ยงหมูป่า หรือกำลังคิดที่จะเลี้ยง วันนี้แอดมินเองจะมาเล่า ประสบการณ์ในการเลี้ยงให้เพื่อนๆ ชาวเกษตรกรและทุกท่านที่สนใจฟังกันครับ


หมูป่านั้นเราจะเลี้ยงเป็นอาชีพหลักก็ได้ หรือเป็นอาชีพเสริมก็ดี เลี้ยงง่ายกำไรงาม มีเงินใช้ตลอดทั้งปี เมื่อแอดมินเกริ่นมาถึงขนาดนี้แล้ว มาเริ่มกันเลยครับ

เมื่อเดือนเมษายน ปี 2565 ช่วงนั้นแอดมินเองรู้สึกท้อแท้กับการเลี้ยงวัว เลี้ยงมาเป็นปี ย่างเข้าสองปี กลับไม่มีแม้แต่เงาของเศษเงินไหลเข้ากระเป๋าเลย ผมเองเลยคิดโครงการใหม่ เลยประกาศขายวัวเลือดผสมบรามันไป 5 ตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้ยินข่าวมาว่า อีกไม่นานวัวจะไม่มีราคา และราคาจะตกต่ำกว่าหลายๆปีที่เคยประสบมา บางคนกล่าวว่า เลี้ยงวัวมา 40 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ราคาตกต่ำกว่าทุกครั้งในรอบ 40 ปีที่เลี้ยงมา

นี่คือสาเหตุที่ผมรีบขายวัวออก ซึ่งมันอาจเป็นความโชคดีของผมที่ยังขายได้สูงเกินราคาที่ซื้อ นั่นหมายถึงเราไม่ขาดทุนเป็นอันว่าใช้ได้

เมื่อขายวัวได้แล้ว ผมก็เอาเงินที่ได้ไปซื้อรถกระบะเก่าๆ 1 คัน ในตอนนั้นคิดแค่ว่าหารถเก่าๆสักคันเพื่อไว้ขนหมู ภารกิจต่อมาเมื่อมีรถขนหมูป่าแล้ว เราก็ต้องทำคอกให้มัน เป็นความโชคดีอีกรอบ ผมมีคอกหมูเก่าอยู่แล้ว แค่รื้อบางส่วนออกแล้วทำใหม่ เมื่อคอกพร้อมแล้วผมก็วิ่งหาหมู ช่วงนั้นด้วยความคิดแค่ว่า อยากได้หมูเยอะๆแต่ควักเงินในกระเป๋าให้น้อยที่สุด เลยตัดสินใจซื้อลูกหมูป่าแทน

ซึ่งลูกหมูป่าที่ซื้อมานั้น เป็นหมูป่าเลือดสูงตัวผอมๆหุ่นเพรียวลม หากเปรียบเทียบกับคนก็เสมือนดารานางแบบชื่อดัง สูงยาวเข่าดีประมาณนั้น ด้วยความชอบในอะตลักษณ์ของมัน หมูป่าจะมีเสน่ห์ในตัว หากใครได้เห็นและสัมผัสมันแล้วอาจเกิดความหลงไหลขึ้นมาก็เป็นได้

ครั้งแรกที่ได้ลูกหมูมาความอยากก็เริ่มทวีคูณขึ้น เมื่อได้เห็นและสัมผัสพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ ของฟาร์มต่างๆเลยเกิดความโลภขึ้นมาทันที ครั้งนี้ในใจกำลังคิดอยู่ว่าเราจะหาเงินที่ไหนดีเพื่อเอามาซื้อหมู ทันใดนั้นเองสายตาก็เหลือบมองไปหน้าบ้าน ซึ่งมีรถกระบะเก่าคันหนึ่งจอดอยู่ นี่แหละคือเงินที่ผมจะเอาไปซื้อพ่อแม่พันธุ์หมูป่า เลยตัดสินใจลงประกาศขายรถทันที เมื่อขายได้เงินก้อนเล็กๆก้อนหนึ่งมาแล้ว

หลังจากนั้นผมก็นั่งเฝ้าอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อส่องหาหมูป่า ซึ่งไปเจอกลุ่มซื้อขายหมูป่ากลุ่มหนึ่งในเขตจังหวัดบุรีรัมย์ ตอนนั้นคิดแค่ว่าหาใกล้ๆบานนี่แหละสะดวกดี

เมื่อคุยราคากันกับพ่อค้าเรียบร้อยผมก็ให้เขามาส่งที่บ้าน พอมาถึงบ้านสายตาผมก็จับจ้องมองไปที่หมูตัวผู้ ผมถูกใจมาก นี่มันหมูป่าแท้นี่หน่า ผมดีใจมากและหลงในความหล่อของมัน เขี้ยวสีขาวยาวเฟื้อยยังกะงาช่างแน่ะ

หลังจากสี่เดือนผ่านไป ผมเริ่มท้อเพราะลูกหมูที่ซื้อมาไว้ทำเป็นแม่พันธุ์ กลับไม่โตดั่งที่คาดหวัง เลยรีบตัดสินใจขายออก ซึ่งพ่อค้าซื้อได้ในราคา กิโลกรัมละ 100 บาท หมูป่าแท้และป่าเลือดสูงของผมนั้น มีน้ำหนักแค่ตัวละ 6 กิโลกรัม แต่กลับกันหมูป่าที่เป็นเลือดผสมกลับตัวโต สิบกว่ากิโล บางตัวดิ่งเข้าไปถึง 20 กิโลกรัมด้วยซ้ำ

จากที่ได้กล่าวมาข้างต้น เพื่อนๆชาวเกษตรกร ไม่มากก็น้อยคงอยากรู้นะครับว่า ทำไมหมูถึงไม่โตไปไหนเลย เอาเป็นว่า ผมจะเล่าให้ฟังครับ

หมูป่าที่คนเรานิยมเลี้ยงนั้น โดยคร่าวๆในความรู้สึกผมคือ

1.หมูป่าเลือดร้อย หรือหมูป่าแท้ (ต้นสายมาจากป่าจริงๆ จับมาจากป่าเพื่อเอามาเลี้ยงขยายพันธุ์) หมูประเภทนี้เป็นหมูป่าของแท้ พฤติกรรมอัตลักษณ์หน้าตาก็จะดูสวย หูเล็กๆแหลมๆ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สวยงามโดดเด่นดูสง่า เหมาะเลี้ยงเพื่อความสวยงาม หรือเน้นเป็นสายอนุรักษ์ ซึ่งหมูป่าเลือดร้อยนั้น ตัวโตๆที่สามารถเป็นแม่พันธุ็ได้ มีราคาเริ่มต้นตัวหนึ่งๆอยู่ที่หลักหมื่นขึ้น บางตัวโดยเฉพาะตัวผู้มีราคาพุ่งถึงหลักแสนก็มี หมูป่าเลือดร้อยจะมีความเจริญเติบโตช้า จึงไม่เหมาะกับสายขุนที่หวังส่งร้านหมูหัน หมูป่าเลือดร้อยลักษณะหุ่นเพรียวบาง ผอมๆให้กินหัวอาหารเยอะแค่ไหนก็จะไม่อ้วน ซึ่งธรรมชาติอาจสร้างมันมาเพื่อให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมในป่า หมูป่าหากอยู่ในป่ามันจะวิ่งเร็วมาก ในวันๆหนึ่งมันสามารถข้ามภูเขาได้หลายลูกเพื่ออกหากินเป็นต้น

2.หมูป่าเลือดสูง วิธีสังเกตุแบบง่ายๆสำหรับผมนะ ดูแค่ที่หูของมันก็จะง่ายหน่อย เพราะบางครั้งป่าเลือดร้อยกับเลือดสูงมันอาจแยกกันไม่ออก แต่ที่แน่ๆดูที่หูของมันสังเกตุง่ายกว่า มันจะใหญ่กว่าป่าแท้นิดหน่อย บางคนบอกสังเกตุที่ลำตัวและขนาดก็ได้ นั่นหมายความว่าคนพูดไม่เข้าใจอัตลักษณ์ของหมูป่าเลย หมูป่าแท้นั้นไม่ใช่มีแค่อัตลักษณ์เดียว แต่ละสภาพแวดล้อมแต่ละพื้นที่นั้นย่อมแตกต่างกันออกไป มีหลากหลายอัตลักษณ์จึงยากที่จะรู้ได้แน่ชัดว่า ตัวไหนแท้ตัวไหนไม่แท้ หมูป่าแท้ปากจะไม่แหลมเสมอไปครับ เพราะหลายคนบอกดูแค่ปากยาวๆก็รู้แล้วว่าแท้ นั่นผิดแล้วครับ

3.หมูป่าเลือดผสม และเลือดต่ำ หมายถึงสายพันธุ์ที่ถูกคนนำมาพัฒนาปรับแต่งสายพันธุ์แล้ว สังเกตุว่าหูจะดูใหญ่มาก โครงสร้างและอัตลักษณ์ของมันจะดูไม่เหมือนป่าแท้และป่าเลือดสูง โครงสร้างสรีระถูกปรับเปลียนไปตามเชื้อสายที่มันได้มา สายพันธุ์นี้เป็นที่ต้องการของพ่อค้าเป็นอย่างมาก หรือสายขุนชอบนำมาเลี้ยงเพื่อส่งร้านหมูหัน และส่งออกให้ประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะชาวกัมพูชา (เขมร) นิยมรับประทานหมูป่ากันเป็นจำนวนมาก เลยอยากแนะนำเพื่อนๆชาวเกษตรกรที่สนใจเลี้ยง ให้เลือกสายพันธุ์เลือดผสมจะเหมาะที่สุด เพราะหมูโตไว บางครั้ง 2 เดือนก็ทยานสู่ 8-10 กิโลกรัมแล้ว หรืออาจต่ำหรือสูงกว่านั้น เพราะหมูป่าเลือดผสมแต่ละฟาร์ม พ่อพันธุ์แม่พันธุ์อาจไม่เหมือนกัน แล้วแต่ความชอบและความถนัดของฟาร์มนั้นๆ วันนี้แอดมินเองก็สาธยายมายาวเฟื้อยพอสมควรแล้ว โปรดติดตาม ตอนที่ 2 ในวันถัดไปครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 กุมภาพันธ์, 2568, 09:05:20 AM โดย ครูอ๊อด รฐศาสตร์ »