กะเพรา - เรื่องทั่วไป - โครงการ อาชีวะสร้างช่างฝีมือ ตามแนวทางโรงเรียนพระดาบส วิทยาลัยการอาชีพโนนดินแดง จ.บุรีรัมย์


กะเพรา
  ครูอ๊อด รฐศาสตร์
  รายละเอียด   ส่งข้อความ โพสต์เมื่อ : 05 กรกฎาคม, 2565, 12:07:05 PM 204 0


กะเพรา

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ocimum sanctum L.
ชื่อสามัญ : Holy basil, Sacred Basil
วงศ์ : Lamiaceae (Labiatae)
ชื่ออื่น : กะเพราขน กะเพราขาว กะเพรา (ภาคกลาง) กอมก้อ กอมก้อดง (เชียงใหม่) อีตู่ไทย (ภาคอีสาน)


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่ม สูง 30-60 ซม. โคนต้นค่อนข้างแข็ง กะเพราแดงลำต้นสีแดงอมเขียว ส่วนกะเพราขาวลำต้นสีเขียวอมขาว ยอดอ่อนมีขนสีขาว ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน รูปรี กว้าง 1-3 ซม. ยาว 2.5-5 ซม. ปลายใบมนหรือแหลม โคนใบแหลม ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย แผ่นใบสีเขียว มีขนสีขาว ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด ดอกสีขาวแกมม่วงแดงมีจำนวนมาก กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกัน ปลายเรียวแหลม ด้านนอกมีขน กลีบดอกแบ่งเป็น 2 ปาก ปากบนมี 4 แฉก ปากล่างมี 1 แฉก ปากล่างยาวกว่าปากบน มีขนประปราย เกสรเพศผู้มี 4 อัน ผล เป็นผลแห้ง เมื่อแตกออกจะมีเมล็ด สีดำ รูปไข่
ส่วนที่ใช้ : ใบสด

สรรพคุณ :
ใช้ใบสดของกะเพรา ถ้าเป็นกะเพราแดงจะมีฤทธิ์แรงยิ่งขึ้น ขยี้ทาตรงหัวหูด เช้า-เย็น จนกว่าหัวหูดจะหลุด

สารเคมี :
ใบ มี Apigenin, Citric acid, Fumric acid , Luteolin, Tartaric acid, Ursolic acid, Malic acid

สรรพคุณของกะเพรา
ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ป้องกันไข้หวัด
ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ เเละอาเจียน
ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร จุกเสียดแน่นท้อง
ช่วยลดระดับไขมันในร่างกาย ลดน้ำตาลในเลือดได้
ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
ช่วยรักษากรดไหลย้อนได้

วิธีทานกะเพรา เพิ่มภูมิคุ้มกัน ต้านโควิด – 19
1.สามารถใช้ประกอบอาหารเมนูต่างๆมากมาย เช่นผัดกะเพรา เป็นต้น
2.น้ำกะเพรา ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ให้นำใบกะเพราทั้งก้านและดอกใบ มาล้างให้สะอาด เเช่ทิ้งไว้ 15 นาที นำมาต้มให้เดือด เเละ สามารถดื่มจิบได้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กรกฎาคม, 2565, 12:08:37 PM โดย TheScan »