เลี้ยงไก่บ้าน แบบบ้านๆ ตอนที่ 3 ในมุมมองและจากประสบการณ์ตรง - ห้องสนทนาเกี่ยวกับเกษตร - โครงการ อาชีวะสร้างช่างฝีมือ ตามแนวทางโรงเรียนพระดาบส วิทยาลัยการอาชีพโนนดินแดง จ.บุรีรัมย์


เลี้ยงไก่บ้าน แบบบ้านๆ ตอนที่ 3 ในมุมมองและจากประสบการณ์ตรง
  ครูอ๊อด รฐศาสตร์
  รายละเอียด   ส่งข้อความ โพสต์เมื่อ : 11 กุมภาพันธ์, 2568, 20:58:10 PM 111 0


จากที่กล่าวใน 2 บาทความที่ผ่านมา ตอนที่ 1  และ ตอนที่ 2   แล้วนั้น เป็นการกล่าวถึงประสบการณ์ส่วนตัว ของแอดมินเองที่ได้ลงมือทำ เพียงลำพัง ไม่ว่าจะเป็นการทำโครงสร้างโรงเรือน ตลอดทั้งล้อมตาข่าย ล้วนทำด้วยสองมือของผมเอง ทำไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก หิวก็กิน กระหายก็ดื่ม ทำไปยืนมองไปปลื้มปีติยินดีกับสิ่งที่ตัวเองได้ลงมือทำ ในเวลานั้นคิดเพียงว่า ดีใจนะที่ได้ลงมือทำสักที ส่วนรายได้ที่คิดหรือคาดหวังว่าจะตามมาตอนหลัง ช่วงนั้นผมเองยังไม่คิด แค่สนุกและปลื้มกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำ ทั้งๆที่ไม่เคยทำมาก่อน

ซึ่งปกติแล้วผมเองก็ในวันๆหนึ่งได้แค่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เช้ายันเย็น บางครั้งพ่วงต่อยาวๆเย็นยันเช้า อดหลับอดนอนหลายวันก็มี ด้วยในช่วงนั้นเป็นโปรแกรมเมอร์ รับเขียนงานที่ลูกค้าสั่ง ไม่ว่าจะเป็นสคริปต์เว็บ เว็บแอพฯ หรืออื่นๆเป็นต้น สาเหตุที่หักเหแนวคิดมาจุติที่การเกษตร ไม่ว่าจะเป็นการปศุสัตว์ และประมงผมเองก็ล้วนลงมือทำมาเรื่อยๆ

จนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากช่วงหลังๆมานี้อาชีพโปรแกรมเมอร์และเว็บมาสเตอร์ ค่อนข้างที่จะไส้แห้ง ด้วยโลกที่เปลี่ยนไปในด้านทางเทคโนโลยี่ ความต้องการของคนก็เปลี่ยนไปตามกระแส โดยเฉพาะมีแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่มาเปิดตัว เข้าถึงคนทุกเพศทุกวัย ทำให้อาชีพด้านไอทีนี้ มีงานเบาบางลง จากเคยได้รายได้เดือนละ หลายๆหมื่นหลังๆมา ร้อยหนึ่งยังไม่มีวี่แวว ทำให้ใจสั่นไหววิตกกังวล เมื่อโลกเปลี่ยนใจคนก็ย่อมเปลี่ยนตาม อย่าหยุดคิด อย่าหยุดทำ แม้สิ่งที่ทำมันคนละเรื่องกัน กับสิ่งที่หวังก็ตาม

กล่าวนอกเรื่องไปเยอะแล้ว เรามาเข้าเรื่อง การเลี้ยงไก่บ้านกันต่อเลยดีหว่าครับ ไก่บ้านนั้นก่อนลงมือทำหรือก่อนเลี้ยงไก่บ้าน  ควรสอดส่องดูตลาดก่อนเพราะแต่ละท้องที่แต่ละสภาพภูมิศาสตร์ของไทยเราหลายท้องที่ไม่เหมือนกัน  บางครั้งหากลงมือทำแล้ว พอได้ผลผลิตกลับไม่มีที่ระบายออก ขายไม่ได้ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาและเงินในกระเป๋าไปฟรีๆ

ตลาดนี่ผมว่าสำคัญนะ อาจเป็นหัวใจหลักก็เป็นได้ หากไม่มีตลาดทำไปก็เปล่าประโยชน์ ไก่บ้านส่วนมากพ่อค้าแม่ค้า เขาจะซื้อจากเรา แล้วเขาก็นำไปส่งออกให้ประเทศเพื่อนบ้านเป็นส่วนมาก ส่วนตลาดภายในประเทศ ความรู้สึกส่วนตัวผมว่าคนไทยไม่ค่อยกินไก่บ้าน

ไก่บ้าน ที่ครูอ๊อดเลี้ยง

แต่ก็ไม่เสมอไป เกษตรกรบางท่านหรือหลายๆท่านก็เลี้ยงแล้วขายเองก็มี อาทิ แปรรูปเป็นไก่ย่าง ซึ่งก็เหมาะโดยเฉพาะเขตจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอห้วยทับทันเป็นแหล่งศูนย์รวมไก่ย่างที่เอาไก่บ้านมาย่าง จนเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ โด่งดังไปทั่ว ตราที่ติดปากคนรับประทานไก่ย่าง คือ ไก่ย่างห้วยทับทัน เป็นต้น

หากเพื่อนๆเกษตรกรมีตลาดแล้วก็ลงมือทำได้เลยครับ หากอยู่สระแก้ว และเขตอีสานใต้จะดีหน่อยเพราะตลาดแข่งขันสูง พ่อค้าแย่งกันซื้อเพราะมีตลาดปลายทางรองรับรับไม่อั้น โดยเฉพาะตลาดช่องจอม จ.สุรินทร์ เป็นแหล่งรับซื้อไก่บ้านถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดแล้ว

ไก่บ้านของครูอ๊อด

ไก่บ้านเมื่อเลี้ยงแล้วกี่เดือนถึงจะขายได้? หากให้ผมตอบ จะตอบว่าบางครั้งตำราที่ว่าไว้อาจไม่เป็นจริงเสมอไปครับ อาจจะเร็วหรือช้ามันอยู่ที่ผู้เลี้ยงและการให้อาหาร

ไก่บ้านเป็นไก่ที่เจริญเติบโตช้ามาก ช้าจนคนเลี้ยงฟลายๆคนเริ่มท้อ สองสามเดือนผ่านไปก็ยังไม่โตสักที จนบางคนใช้สูตรลัดให้กินหัวอาหารอย่างเดียว (ไก่โตไวมาก) ข้อเสียของการให้หัวอาหารคือ หากเลี้ยงเพื่อส่งประเทศเพื่อนบ้านเขาจะไม่รับซื้อ

ลำตัวเอกลักษณ์ไก่บ้านที่กินหัวอาหารเป็นหลักมันจะดูชัดเจนมากครับ คนซื้อเขาดูออก และอีกอย่างไก่ที่จะขายขนต้องมี หากไม่มีขนหรือขนน้อยพ่อค้าก็ไม่ซื้อ เพราะซื้อไปก็เอาไปจำหน่ายต่อไม่ได้

สาเหตุที่ไก่ไม่มีขน หรือขนน้อยอาจมาจากคนเลี้ยงให้อาหารไก่ไม่เพียงพอกับจำนวนไก่ที่เลี้ยง นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้ไก่ไม่มีขน เพราะหากให้อาหารไม่เพียงพอ ไก่บ้านก็หิว เมื่อหิวก็จะมองหาเป้าหมายที่อยู่ข้างๆ ก็คือไก่ด้วยกัน นั่นก็คือขนไก่ มันจะจิกเพื่อกินขนไก่ครับ หากหิวมากๆรับรองเลยครับว่าหัวโล้นทุกตัว ขนตูดหายแน่นอน

ระยะเวลาจากเริ่มเลี้ยงถึงปล่อยจำหน่าย ปกติแล้วก็เร็วสุด ประมาณ 100-120 วัน หรือ 4 เดือน แต่อย่าคาดหวังมากครับ เพราะ 4 เดือนนี้มันอาจจะไม่โตมากก็ได้ บางคนกินเวลาไปถึง 5-8 เดือนก็มีครับ ตะวไก่ที่สามารถนำออกจำหน่ายได้ พ่อค้าคนกลางเขารับซื้อ น้ำหนักตัวต่ำสุด 1.2 - 1.5 กิโลกรัมครับ ไก่แก่ก็ขายไม่ได้เพราะเนื้อมันจะเหนียว ตลาดไม่ต้องการ

ฉนั้นหากเราอยากให้ไก่โตตามระยะเวลาที่ตำราว่าไว้ เราต้องขุนไก่ตั้งแต่เล็กๆ ไก่เล็กต้องให้กินหัวอาหารเท่านั้น เพื่อให้มันได้โครงสร้างที่ดีก่อน พอเริ่มโตค่อยให้อาหารทั่วๆไป อาทิ รำ/ข้าวโพดบด/หญ่าเนเปียสับ/มันหมักยีส/ต้นกล้วยสับ เป็นต้น

บางคนอาจให้กินแค่ข้าวเปลือก ข้าวเปลือกไก่กินแล้วก็แข็งแรงดีนะ แต่ข้อเสียคือเปลืองมากครับ หากทำนาเองก็ไม่น่าจะมีปัญหา

สำหรับผม อาหารหลักๆ คือ รำ ข้าวโพดบดละเอียด ตันกล้วยสับละเอียด หัวอาหาร(หัวอาหารผง เอาแค่นิดๆหน่อยๆแค่ให้ได้กลิ่น) ผสมเข้ากันใส่น้ำพอหมาดๆ (หากมีข้าวโพดบด ก็ไม่จำเป็นต้องใส่หัวอาหาร) บางครั้งผมใช้กากมันหมักยิสด้วย (กากมันหมักยิสนานๆกินทีกิน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 กุมภาพันธ์, 2568, 08:59:15 AM โดย ครูอ๊อด รฐศาสตร์ »