มะเร็งรังไข่ สาเหตุ อาการ และวิธีรักษามะเร็งรังไข่
มะเร็งรังไข่คืออะไร
มะเร็งรังไข่ (Ovarian Cancer) เป็นเซลล์เนื้องอกที่มีการแบ่งตัวอย่างผิดปกติ ซึ่งเกิดขึ้นได้ตั้งแต่บริเวณเยื่อบุผิวรังไข่ ฟองไข่ และเนื้อรังไข่ ก่อนที่จะแพร่กระจายหรือลุกลามไปยังบริเวณอื่นๆ โดยแบ่งเป็นเนื้องอกธรรมดา (Benign Tumor) เป็นเนื้องอกชนิดที่ไม่แพร่กระจายสามารถรักษาได้ ส่วนเนื้องอกอีกชนิดคือ เนื้อมะเร็ง (Malianant) เป็นเนื้องอกชนิดเนื้อร้ายรักษาได้ยาก มักลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงส่วนอื่นได้รวดเร็ว
สาเหตุของโรคมะเร็งรังไข่
– มีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งรังไข่มาก่อน
– ผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวมากมีความเสี่ยงมากกว่าผู้หญิงที่น้ำหนักตัวน้อย
– ผู้หญิงที่มีบุตรหลายคน
– มะเร็งรังไข่ชนิดเยื่อบุพบในผู้หญิงอายุระหว่าง 50 – 60 ปี ส่วนมะเร็งรังไข่ทั่วไปพบในผู้หญิงอายุน้อยกว่า 20 ปี
– ปัจจัยทางพันธุกรรม
– ผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม หรือลำไส้ใหญ่ และเยื่อบุโพรงมดลูก มีโอกาสเป็นมะเร็งรังไข่สูง
อาการของโรคมะเร็งรังไข่
– มีก้อนเนื้อในช่องท้องหรือเชิงกรานทำให้รู้สึกแน่นท้องหรือปวดท้อง
– มีอาการท้องอืดเป็นประจำ
– รู้สึกปวดถ่วงทำให้ถ่ายอุจจาระลำบาก
– ถ่ายปัสสาวะบ่อยและขัด
– เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด
– ประจำเดือนมาผิดปกติ
– มีน้ำในช่องท้องหากเซลล์มะเร็งลุกลามไปยังช่องท้องจึงทำให้อาจดูตัวบวมน้ำเหมือนอ้วนขึ้น
– ในผู้หญิงบางคนอาจมีเสียงห้าวขึ้น มีหนวด หรือขนขึ้นตามตัวคล้ายผู้ชาย เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป
วิธีการรักษาโรคมะเร็งรังไข่
– โดยวิธีผ่าตัด แพทย์จะทำการตัดเนื้องอกออกให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งการผ่าตัดนี้จากส่งผลทำให้ผู้ป่วยไม่มีประจำเดือนอีก และไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แต่หากผู้ป่วยยังต้องการมีบุตรอยู่ แพทย์จะทำการผ่าตัดเอาเฉพาะรังไข่และท่อนำไข่ส่วนที่เป็นเนื้องอกออก
– โดยวิธีเคมีบำบัด ซึ่งมีทั้งยารับประทานและยาฉีด ซึ่งมีการให้ยาเคมีทางช่องที่มีอวัยวะภายในช่อง
ท้อง เพื่อเป็นการฆ่าเซลล์มะเร็ง
– โดยวิธีรังสีรักษา แพทย์อาจจะทำการฉายแสงควบคู่กับวิธีผ่าตัดหรือเคมีบำบัด ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เป็นหลัก โดยแพทย์จะฉายแสงไปยังบริเวณที่มีเซลล์มะเร็ง อาจฉายรังสีจากเครื่องที่อยู่ภายนอกร่างกายเป็นเวลาสัปดาห์ละ 5 วัน หรือฝังสารรังสีไว้ใกล้กับมะเร็งเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง แต่วิธีรังสีรักษานี้ในปัจจุบันไม่นิยมรักษากับผู้ป่วยมะเร็งรังไข่
วิธีดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งรังไข่
– ควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ และไม่หักโหมจนเกินไป เพื่อกระตุ้นให้สุขภาพกาย
และจิตดี รวมทั้งนอนหลับสนิท
– รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ โดยเน้นไปที่ผัก, ผลไม้เป็นหลัก
– งดดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่สูบบุหรี่
– หมั่นไปตรวจเช็กตามที่แพทย์นัดเป็นประจำ ว่ามีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นอีกหรือไม่
มะเร็งรังไข่คืออะไร
มะเร็งรังไข่ (Ovarian Cancer) เป็นเซลล์เนื้องอกที่มีการแบ่งตัวอย่างผิดปกติ ซึ่งเกิดขึ้นได้ตั้งแต่บริเวณเยื่อบุผิวรังไข่ ฟองไข่ และเนื้อรังไข่ ก่อนที่จะแพร่กระจายหรือลุกลามไปยังบริเวณอื่นๆ โดยแบ่งเป็นเนื้องอกธรรมดา (Benign Tumor) เป็นเนื้องอกชนิดที่ไม่แพร่กระจายสามารถรักษาได้ ส่วนเนื้องอกอีกชนิดคือ เนื้อมะเร็ง (Malianant) เป็นเนื้องอกชนิดเนื้อร้ายรักษาได้ยาก มักลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงส่วนอื่นได้รวดเร็ว
สาเหตุของโรคมะเร็งรังไข่
– มีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งรังไข่มาก่อน
– ผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวมากมีความเสี่ยงมากกว่าผู้หญิงที่น้ำหนักตัวน้อย
– ผู้หญิงที่มีบุตรหลายคน
– มะเร็งรังไข่ชนิดเยื่อบุพบในผู้หญิงอายุระหว่าง 50 – 60 ปี ส่วนมะเร็งรังไข่ทั่วไปพบในผู้หญิงอายุน้อยกว่า 20 ปี
– ปัจจัยทางพันธุกรรม
– ผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม หรือลำไส้ใหญ่ และเยื่อบุโพรงมดลูก มีโอกาสเป็นมะเร็งรังไข่สูง
มะเร็งรังไข่เกิดได้จากหลายสาเหตุ การมีลูกมากก็เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งรังไข่
อาการของโรคมะเร็งรังไข่
– มีก้อนเนื้อในช่องท้องหรือเชิงกรานทำให้รู้สึกแน่นท้องหรือปวดท้อง
– มีอาการท้องอืดเป็นประจำ
– รู้สึกปวดถ่วงทำให้ถ่ายอุจจาระลำบาก
– ถ่ายปัสสาวะบ่อยและขัด
– เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด
– ประจำเดือนมาผิดปกติ
– มีน้ำในช่องท้องหากเซลล์มะเร็งลุกลามไปยังช่องท้องจึงทำให้อาจดูตัวบวมน้ำเหมือนอ้วนขึ้น
– ในผู้หญิงบางคนอาจมีเสียงห้าวขึ้น มีหนวด หรือขนขึ้นตามตัวคล้ายผู้ชาย เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป
ถ้าประจำเดือนมาไม่เป็นปกติเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ เพราะอาจจะเป็นลางบอกเหตุของโรคมะเร็งรังไข่
วิธีการรักษาโรคมะเร็งรังไข่
– โดยวิธีผ่าตัด แพทย์จะทำการตัดเนื้องอกออกให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งการผ่าตัดนี้จากส่งผลทำให้ผู้ป่วยไม่มีประจำเดือนอีก และไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แต่หากผู้ป่วยยังต้องการมีบุตรอยู่ แพทย์จะทำการผ่าตัดเอาเฉพาะรังไข่และท่อนำไข่ส่วนที่เป็นเนื้องอกออก
– โดยวิธีเคมีบำบัด ซึ่งมีทั้งยารับประทานและยาฉีด ซึ่งมีการให้ยาเคมีทางช่องที่มีอวัยวะภายในช่อง
ท้อง เพื่อเป็นการฆ่าเซลล์มะเร็ง
– โดยวิธีรังสีรักษา แพทย์อาจจะทำการฉายแสงควบคู่กับวิธีผ่าตัดหรือเคมีบำบัด ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เป็นหลัก โดยแพทย์จะฉายแสงไปยังบริเวณที่มีเซลล์มะเร็ง อาจฉายรังสีจากเครื่องที่อยู่ภายนอกร่างกายเป็นเวลาสัปดาห์ละ 5 วัน หรือฝังสารรังสีไว้ใกล้กับมะเร็งเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง แต่วิธีรังสีรักษานี้ในปัจจุบันไม่นิยมรักษากับผู้ป่วยมะเร็งรังไข่
รังสีรักษา (Radiation) หนึ่งในวิธีรักษาโรคมะเร็งรังไข่
วิธีดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งรังไข่
– ควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ และไม่หักโหมจนเกินไป เพื่อกระตุ้นให้สุขภาพกาย
และจิตดี รวมทั้งนอนหลับสนิท
– รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ โดยเน้นไปที่ผัก, ผลไม้เป็นหลัก
– งดดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่สูบบุหรี่
– หมั่นไปตรวจเช็กตามที่แพทย์นัดเป็นประจำ ว่ามีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นอีกหรือไม่
ควรตรวจสุขภาพทุกปี เพื่อหาโรคไม่พึงประสงค์ และการรักษาที่ทันท่วงที
บันทึกการเข้า
